UFABETWINS ครั้งสุดท้ายที่ลิเวอร์พูลแพ้ในเกมลีกเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ 21 ของฤดูกาล 2018/19
UFABETWINS นับจากความปราชัยคราวนั้น – แพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เอติฮัด สเดเตี้ยม 1-2 เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2019 – ทีมหงส์แดงก็ไม่แพ้ใครอีกเลย
นั่นคือ 17 เกมสุดท้ายของฤดูกาลก่อน บวกกับอีก 23 เกมที่ผ่านไปของฤดูกาลนี้
ยังคงอยู่บนเส้นทางที่ทั้ง “ทาบ” และ “ทำลาย” สถิติที่อาร์เซน่อลเคยทำเอาไว้
“ทาบ” สถิติฤดูกาลไร้พ่าย
“ทำลาย” สถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันมากที่สุดในลีก
แน่นอนครับ สถิติไร้พ่ายของทีมปืนใหญ่เมื่อฤดูกาล 2003/04 นั้นคงไม่มีใครทำลายได้อีกเพราะโดยตัวสถิติคือไม่แพ้ใครตลอด 38 นัดของฤดูกาล
ดีที่สุดจึงเป็นเพียงการทำไร้พ่ายได้เหมือนกันเท่านั้น แม้ถ้าทำได้จริงๆ จำนวนแต้มลิเวอร์พูล 2019/20 อาจจะมากกว่าก็ตาม (อาร์เซน่อลชนะ 26 เสมอ 12 จาก 38 เกม ส่วนหงส์แดงเตะไปแล้ว 23 นัด ชนะ 22 เสมอ 1)
กระนั้นมันก็น่าประทับใจและภูมิใจมากอยู่ในตัวอยู่แล้วมิใช่หรือครับ
ปาทริค วิเอร่า ตำนานกองกลางของอาร์เซน่อลชุดอินวินซิเบิ้ลครั้งนั้นให้ทรรศนะว่าลิเวอร์พูลชุดนี้เต็มไปด้วยคุณสมบัติที่จะทำมันได้สำเร็จ
ปั๊ตให้เหตุผลว่าลิเวอร์พูลเวลานี้มี “The spirit, the togetherness, the momentum and the belief all there”
คือมีทั้งสปิริต การอยู่เคียงข้างกัน โมเมนตัม และความเชื่อมั่น เรียกว่ามีคุณสมบัติสำหรับการเป็นแชมป์ไร้พ่ายอย่างที่อาร์เซน่อลเคยทำครบถ้วน
การที่คุณลงสนามเตะ 38 นัดตลอดฤดูกาล ผ่านเวลายาวนาน 9-10 เดือน ต้องเดินทางไปเยือนสนามต่างๆ 19 สนามทั่วประเทศและรับมือกับคู่แข่งในบ้านตัวเองอีก 19 นัดแล้วไม่แพ้ใครเลยนั้น เพียงแค่ฝีเท้าอย่างเดียวไม่พอแน่
มันต้องมีคุณสมบัติอื่นๆ ประกอบกันลงตัวอย่างที่วิเอร่าบอก
สปิริต การอยู่เคียงข้างกัน โมเมนตัม และความเชื่อ
มีความไม่เชื่อมั่นในกันและกันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็พัง สปิริตหละหลวมเมื่อไหร่ก็พัง เกิดรอยร้าวในความกลมเกลียวต่างคนต่างไปเมื่อไหร่ก็พัง หรือต่อให้มีทั้งหมดในมือแต่โมเมนตัมไม่เข้าที่เข้าทางก็พังได้เหมือนกัน
เกมเยือน โมลินิวซ์ กราวนด์ คือหนึ่งในโปรแกรมที่ลิเวอร์พูลมีโอกาสแพ้มากที่สุดในฤดูกาล ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าบ้านที่แสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยเกมหัวค่ำอากาศหนาวเหน็บ ด้วยความคุ้นเคยสภาพสนามที่เป็นรอง
ความพร้อมของทีมหมาป่าก็สมบูรณ์ทุกตำแหน่ง นูโน่ ซานโต้ จัดขุนพลตัวเก่งลงเล่นเต็มสูบ แถมด้วยความมุ่งมั่นที่วูล์ฟส์เองก็หวังสร้างชื่อเป็นทีมแรกในรอบ 40 เกมที่เอาชนะแชมป์ยุโรป 6 สมัย มันจึงเป็นเงื่อนไขที่แตกต่างไปจากวันที่พวกเขาต้องไปเยือนแอนฟิลด์ในช่วงบ๊อกซิ่งเดย์
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะโมเมนตัมที่ยังเข้าทางลิเวอร์พูล ความแน่นอนที่ควรจะมีของวูล์ฟแฮมป์ตันจึงกลายเป็นไม่แน่นอนไปเสียหมด ลูกโหม่งโล่งๆ ของ แมตต์ โดเฮอร์ตี้ ลูกตะบันเต็มเท้าของ อดาม่า ตราโอเร่ และจังหวะหลุดไปยิงของดาวเตะสเปนเชื้อสายมาลีในครึ่งหลัง..
.. ลูกยิงในวินาทีชี้เป็นชี้ตายของ ดีโอโก้ โชต้า ในช่วงทดเวลา
ไม่ใช่ลิเวอร์พูลไม่พลาดเลย และไม่ใช่เกมรุกของวูล์ฟแฮมป์ตันบ้อท่าทำอะไรไม่ได้เลย โอกาสของทีมหมาป่ามี แต่พวกเขาโยนมันหลุดลอยไปหมด
นอกเหนือไปจากแรงส่งเรื่องโมเมนตัมที่เข้าทางแล้ว ลิเวอร์พูลเองก็ยังแสดงให้เห็นถึงคุณภาพในเกมป้องกันของพวกเขาด้วย จังหวะพิง จังหวะเบียดและเทคนิคต่างๆ ที่ขัดโอกาสทำประตูของวูล์ฟส์นั้นทำได้ยอดเยี่ยมในหลายๆ ครั้ง
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เบียดโดเฮอร์ตี้ทางเสาสองในโอกาสแรกของวูล์ฟส์จากฟรีคิกต้นเกม
ความนิ่งและคลาสของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ก็เช่นกัน เกมนี้เขาก็ยังเก็บทุกโอกาสทำประตูของวูล์ฟส์เข้ากระเป๋าหมดจดเหมือนที่ทำในเกมอื่นๆ โดยเฉพาะครึ่งแรกที่โชว์ความเหนือชั้นชัดเจน ทั้งการขยับตัว ทางบอล การอ่านเกม.. ระดับโลก
นาที 17 สปีดเข้าเหลี่ยมบัง ราอูล ฮิมิเนซ
นาที 29 เบียดฮิมิเนซในเขตโทษ แล้วตามออกมาบังทาง จอนนี่ อ๊อตโต้ จนแตะบอลออกหลัง
นาที 42 บล็อกลูกยิงของฮิมิเนซ
ถัดจากความแข็งแกร่งของฟาน ไดค์แล้วลิเวอร์พูลก็ยังมี อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่ช่วยทีมชัดๆ ในครึ่งหลัง การป้องกันลูกยิงของตราโอเร่ทั้ง 2 ครั้งสำคัญในระดับจุดเปลี่ยนของเกมเพราะทำให้ทีมไม่ถูกยิงแซง
จังหวะเล็กๆ น้อยๆ ของเกมลิเวอร์พูลเปิดช่องให้วูล์ฟส์อยู่บ้าง ทั้งที่พลาดเองอย่างเช่นการจ่ายบอลขาดหรือสกัดพลาดรวมทั้งการเล่นที่ดีของเจ้าบ้านเอง แต่จังหวะใหญ่ๆ พวกเขาไม่พลาด
สิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งของลิเวอร์พูลในเวลานี้ยังคงมีเรื่องการอยู่เคียงข้างกัน
การอยู่เคียงข้างกันของทั้งนักฟุตบอลในสนาม ตัวสำรอง ทีมงาน และกองเชียร์
หลังถูกฮิมิเนซโหม่งตีเสมอต้นครึ่งหลัง แทนที่เพลงซึ่งดังกระหึ่มโมลินิวซ์ กราวนด์ จะเป็นเพลงเชียร์ของวูล์ฟแฮมป์ตัน แต่ไม่ใช่เลย.. เสียงตะโกนที่ได้ยินกลับเป็นเพลง Si Senor!!
Si Senor ที่เดอะค็อปแต่งให้ฟีร์มีโน่..
Si Senor ที่เดอะค็อปตะเบ็งปลุกเร้านักเตะในสนามให้กลับมาตั้งหลักกันใหม่อีกครั้ง อย่าเสียขวัญ เรายืนเคียงข้างพวกนายเสมอ
** ข้อมูลเพิ่มเติม – เพลง si senor ของวูล์ฟแฮมป์ตันก็มีเหมือนกันครับ แฟนบอลหมาป่าเขาร้องให้ ราอูล ฮิมิเนซ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ครับ **
ตอนที่ได้ยินเพลงนี้ คำพูดของ ปาทริค วิเอร่า วนกลับเข้ามาในหัวของผมอีกครั้ง
The Togetherness.. เคียงข้างกัน
มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่มีใครทอดทิ้งกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่นักฟุตบอลต้องการพลังใจ
เมื่อบ๊อบบี้กระทุ้งประตูให้ทีมนำอีกครั้งเป็น 2-1 ก่อนหมดเวลา 6 นาที คำพูดของปั๊ตจึงวนกลับมาย้ำอยู่ในหัวของผมอีกที
The spirit, the togetherness, the momentum and the belief are all there
ลิเวอร์พูลมีครบจริงๆ ครับ ครบจนน่าอิจฉาตัวเอง
เรื่องที่ต้องกังวลอยู่บ้างอาจเป็นปัญหาบาดเจ็บของ ซาดิโอ มาเน่ และอาการที่ชายโครงของฟาน ไดค์ ในจังหวะปะทะกับตราโอเร่ซึ่งต้องตามข่าวกันอีกครั้ง แต่ในภาพรวมแล้ว 3 คะแนนเกมนี้ยิ่งทำให้สถานการณ์สว่างสดใสขึ้นไปอีก
บุกชนะที่โมลินิวซ์ กราวนด์.. เส้นทางช่างกระจ่างแจ่มแจ้ง เกมเหลือน้อยลง นำห่างเท่าเดิม และอาจจะห่างกว่าเดิมด้วยเกมในมืออีกนัด
เหลือบมองดูตารางคะแนนอีกครั้งก็ยังไม่น่าเชื่อนะครับ เพราะมันเหมือนความฝันจริงๆ
1. ลิเวอร์พูล เตะ 23 ชนะ 22 เสมอ 1 แพ้ 0 แต้ม 67
2. แมนฯ ซิตี้ เตะ 24 ชนะ 16 เสมอ 3 แพ้ 5 แต้ม 51
นำ 16 คะแนนพร้อมเกมในมืออีกหนึ่งนัด และเกมที่เหลือน้อยลงอีกหนี่งเกม
ลิเวอร์พูลจึงยังอยู่บนเส้นทางของการเป็นแชมป์เต็มตัวและทาบสถิติไร้พ่ายของอาร์เซน่อลอย่างจริงจังอย่างที่เห็น
หากที่ยิ่งน่าเร้าใจกว่านั้น.. มันคือสถิติไม่แพ้ใคร 49 นัดติดต่อกันของทีมปืนใหญ่
สถิตินี้ไม่เพียงแค่ “ทาบ” แต่ลิเวอร์พูลมีโอกาส “ทำลาย” มันได้ตั้งแต่ก่อนจบฤดูกาลนี้
อาร์เซน่อลยุคอาร์แซน เวนเกอร์ ทำสถิตินั้นเอาไว้ช่วงระหว่างปี 2002 ถึง 2004
2 นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2002/03
38 นัดตลอดฤดูกาล 2003/04
9 นัดแรกของฤดูกาล 2004/05
ลิเวอร์พูลไม่แพ้ใครมาแล้ว 40 เกมติดต่อกันในลีก โอกาสเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นใหม่อยู่ในมือพวกเขาเอง
กวาดตาดูโปรแกรมอีกที เกมที่ทาบสถิติ 49 นัดคือวันที่ไปเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 เม.ย. ซึ่งเป็นนัดที่ 32 ของฤดูกาล และเกมที่จะทำลายสถิติคือเกมรับมือแอสตัน วิลล่าในแอนฟิลด์อีกหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง
ถามว่าสะดวกโยธินไหมก็อาจไม่ถึงขนาดนั้น แต่มันมีโอกาสอย่างจริงจังที่จะเป็นไปได้
เพราะ 2 เกมล่าสุดทั้งศึกแดงเดือดและเยือนถ้ำหมาป่าคือ 2 เกมเสี่ยงที่พวกเขาไม่เพียงผ่านได้เท่านั้น หากยังเป็นการผ่านมันด้วย 6 คะแนนเต็ม
เกมเสี่ยงที่ยังเหลือ.. เยือนเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เยือนวัตฟอร์ด เยือนเอฟเวอร์ตัน เกมเหล่านี้จัดอยู่ในข่ายอันตรายเสี่ยงต่อความปราชัยได้ทั้งสิ้น
และแมตช์สำคัญที่สุดถ้ายังผ่านไปได้ถึงตรงนั้น.. เกมเยือนเอติฮัด สเตเดี้ยม จะเป็นวันชี้ชะตา
แน่นอนครับ ผลบั้นปลายสำคัญที่สุด สุดท้ายแล้วจะแพ้ก็ไม่เป็นไรหรอกขอให้คว้าแชมป์ลีกที่รอคอยมา 30 ปีให้ได้เป็นพอ เพียงแต่ในความปรารถนาอันแรงกล้านั้นผมคิดว่าลึกๆ แล้วเดอะค็อปก็สนใจสถิติไร้พ่ายทั้ง 2 สถิติของอาร์เซน่อลอยู่เหมือนกัน
ตราบใดที่มันยังอยู่ในโอกาสที่จะทำได้ มีเหตุผลอะไรที่จะไม่หวังกับมันเล่าครับ
สปิริต การอยู่เคียงข้างกัน โมเมนตัม และความเชื่อมั่น ไม่มีอะไรอธิบายคุณสมบัติเหล่านี้ได้ดีไปกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาได้ทำให้เราเห็นตลอดมาอีกแล้ว..
อ่านข่าวอื่นๆที่ >>> UFABETWINS
หน้าแรก >>> https://www.remasters4homes.com/