UFABETWINS เมื่อพูดถึงชื่อ บิลลี่ จีน (Billie Jean) เชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะนึกถึงบทเพลงของราชาเพลงป๊อปตลอดกาล
ไมเคิล แจ็คสัน (Michael Jackson) อย่างเพลง Billie Jean ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะ Billie Jean คือหนึ่งในบทเพลงที่ขึ้นหิ้งอมตะตลอดกาลของโลก โดยในปี 1983 ที่เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาก็สามารถทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 ของบิลบอร์ดชาร์ตได้สำเร็จ และครองแชมป์ได้ยาวนานถึง 7 สัปดาห์ ยิ่งไปกว่านั้น Billie Jean ยังมีส่วนสำคัญที่ทำให้ Thriller กลายเป็นอัลบั้มที่มียอดขายสูงที่สุดมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยจำนวน 47.3 ล้านก๊อปปี้ ทิ้งห่างอัลบั้ม Back in Black
ของศิลปินร็อครุ่นใหญ่ AC/DC เกือบเท่าตัวเลยทีเดียว ด้วยความโด่งดังระดับนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า Billie Jean ได้บดบังชื่อของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ที่มีชื่อพ้องกับชื่อเพลงอย่าง บิลลี่ จีน คิง (Billie Jean King) ให้ลืมเลือนหายไป เพราะไม่ว่าเมื่อไรที่เอ่ยคำว่า บิลลี่ จีน ออกมา เพลงของ ไมเคิล แจ็คสัน มักจะเป็นสิ่งแรกที่ผู้คนนึกถึงเสมอ ทั้ง ๆ ที่ บิลลี่ จีน คิง เองก็ได้สร้างสิ่งยิ่งใหญ่ไว้ไม่แพ้กัน สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าถ้าโลกนี้ไม่มี บิลลี่ จีน คิง ในตอนนี้
ความเท่าเทียมเรื่องเพศในวงการกีฬาอาจจะยังเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน ความตลกร้ายยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ในขณะที่ บิลลี่ จีน คิง คือผู้ผลักดันให้ผู้หญิงเท่าเทียมกับผู้ชาย เรียกได้ว่าเธอคือผู้บุกเบิกที่นำแนวคิดแบบเฟมินิสต์เข้ามามีบทบาทในโลกของกีฬา แต่บทเพลง Billie Jean ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์จริงของ ไมเคิล แจ็กสัน ที่ถูกคุกคามโดยแฟนเพลงสาว ที่เป็นผู้ป่วยทางจิตและอ้างว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกแฝดของเขาอยู่ (ในตอนแรกเพลงนี้เคยเกือบถูก
เปลี่ยนชื่อเป็น Not My Lover เนื่องจากทางโปรดิวเซอร์กลัวผู้คนจะสับสนกับ บิลลี่ จีน คิง แต่ ไมเคิล ยืนยันที่จะใช้ชื่อเพลงนี้พร้อมบรรจุลงไปในแทร็กลิสต์ของอัลบั้ม Thriller) กลับมีเนื้อหาบางส่วนที่สะท้อนถึงทัศนคติแบบ “ชายเป็นใหญ่” โดยถ้าตั้งใจฟังดี ๆ จะพบว่าเพลง Billie Jean นั้นมีเนื้อหาที่แสดงออกถึงการปัดความรับผิดชอบ เช่นในท่อน “Billie Jean is not my lover She’s just a girl who claims that I am the one But the kid is not my son” ที่ ไมเคิล
บอกว่า บิลลี่ จีน ไม่ใช่แฟนเขา และเด็กในท้องก็ไม่ใช่ลูกเขา ก่อนที่ในท่อนต่อมาจะเนื้อหาที่ขัดแย้งกัน “This happened much too soon She called me to her room” “His eyes were like mine” ที่บ่งบอกว่าฝ่ายหญิงเรียก ไมเคิล ไปที่ห้อง และสื่อไปในทางว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งทางเพศกันจริง ๆ อีกทั้งเด็กที่เกิดออกมาก็มีดวงตาคล้ายกับ ไมเคิล ดังนั้นเขาก็มีโอกาสที่จะเป็นลูก ไมเคิล จริง ๆ แต่ฝ่ายนักร้องดังกลับเลือกที่จะปัดความรับผิดชอบ หรือพูดให้เข้าใจ
ง่าย ๆ ว่า “ท้องไม่รับ” นั่นเอง ด้วยเนื้อหานี้ เรียกได้ว่าเพลง Billie Jean นั้นขัดแย้งกับแนวคิดและตัวตนของ บิลลี่ จีน คิง ที่เราหยิบยกเรื่องราวของเธอมากล่าวถึงในบทความนี้โดยสิ้นเชิง ติดตามเรื่องราวของนักเทนนิสหญิงยอดฝีมือผู้เปลี่ยนประวัติศาสตร์กีฬาไปตลอดกาลได้ คอร์ทเทนนิสที่มีแต่สีขาว บิลลี่ จีน คิง (นามสกุลเดิม มอฟฟิตต์) เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1943 ณ เมืองลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยครอบครัวของเธอเป็นชาวคริสต์
นิกายเมธอดิสต์ อนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ความเป็นนักกีฬาได้ฝักรากลึกลงในจิตใจของเด็กหญิงตั้งแต่เด็ก เพราะนอกจากการประกอบอาชีพเป็นนักดับเพลิงเพื่อหาเงินเลี้ยงดูจุนเจือครอบครัวแล้ว คุณพ่อของเธอยังเป็นอดีตนักบาสเกตบอลระดับท้องถิ่น ส่วนคุณแม่ที่เป็นแม่บ้านก็เคยเป็นนักว่ายน้ำมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น แรนดี้ มอฟฟิตต์ น้องชายของเธอก็ได้เติบโตขึ้นเป็นนักเบสบอลตำแหน่งพิชเชอร์ และโลนแล่นอยู่ในลีก MLB ยาวนานกว่า 12 ปีกับทีม San Francisco
Giants, Houston Astros, และ Toronto Blue Jays คิง ได้เรียนรู้ที่จะเล่นเบสบอลและซอฟท์บอล ซึ่งพรสวรรค์ของเธอก็ฉายแววตั้งแต่เริ่ม โดยในวัยเพียง 9 ปี คิง ก็คว้าแชมป์การแข่งขันเยาวชนของเมืองลองบีชร่วมกับเพื่อนร่วมทีมที่อายุมากกว่าเธอ 4-5 ปี ได้สำเร็จ แต่สุดท้ายเมื่ออายุได้ 11 ปี คิง ก็ต้องเลิกเล่นซอฟท์บอล เนื่องจากพ่อของเธอมองว่ากีฬาชนิดนี้ไม่เหมาะกับภาพลักษณ์การเป็น “กุลสตรี” เท่าไร ก่อนที่จะผลักดันให้เธอเปลี่ยนมาเล่นเทนนิสแทน
เพราะมองว่าเป็นกีฬาที่เกียวกับการวิ่งและตีลูกเหมือนกัน ที่สำคัญคือกีฬาชนิดนี้ผู้หญิงเล่นกันอย่างแพร่หลาย โดยไม้แร็กเก็ตแรกในชีวิตก็เป็นเด็กหญิงที่เก็บเงินจำนวน 8 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซื้อมาด้วยตัวเอง ในช่วงแรก คิง ตระเวนเรียนวิชาเทนนิสตามคอร์ทสาธารณะที่เปิดให้ประชาชนสามารถใช้ได้ฟรีเมืองลองบีช และเธอก็รู้ตัวทันทีว่าตัวเองเกิดมาเพื่อกีฬาชนิดนี้ “ฉันรู้ตั้งแต่บทเรียนแรกที่ได้เรียนว่าชีวิตนี้ต้องการอะไร” “ฉันต้องการที่จะเป็นนักเทนนิสที่เก่งที่สุดในโลก”
คิง กล่าวย้อนความหลัง อย่างไรก็ตามหลังจากที่ คิง เริ่มจริงจังกับกีฬาเทนนิสมากขึ้น เธอก็เริ่มเข้าเป็นสมาชิกของคลับเทนนิสต่าง ๆ ที่มีการเรียนการสอนอย่างจริงจัง มีคอร์ทสภาพสมบูรณ์ได้มาตรฐาน แต่ในทางตรงกันข้าม นี่คือครั้งแรกที่ คิง ได้เห็นว่ามีความไม่เท่าเทียมอย่างชัดเจนในกีฬาชนิดนี้ “ตอนอายุ 13 ฉันไปตีเทนนิสที่ Los Angeles Tennis Club และที่นั่นฉันก็ได้เห็นทุกคนมีผิวสีขาว สวมเสื้อผ้าสีขาว สวมรองเท้าสีขาว สวมถุงเท้าสีขาว”
“ในตอนแรกมันก็ดูสวยงามเป็นระเบียบดี แต่สักพักฉันก็เริ่มตั้งคำถามว่าแล้วคนอื่นๆอยู่ที่ไหน? หมายถึงคนสีผิวอื่นหรือคนที่ดูแตกต่างออกไป ฉันในฐานะเด็กผู้หญิงซึ่งเป็นพลเมืองชั้นสอง แต่ฉันก็รู้ดีว่าอย่างน้อยฉันก็ผิวขาว ฉันมีอภิสิทธิ์มากมายที่เหนือกว่าคนผิวสีอื่นๆ” “ตอนนั้นเองที่ฉันสัญญากับตัวเองว่า ฉันจะดำรงไว้ซึ่งความเสมอภาคของทุกชีวิตตลอดชีวิตที่เหลือของฉัน ไม่ใช่แค่ผู้หญิง แต่หมายถึงทุกคน ดังนั้นฉันจึงจำเป็นต้องเป็นนักเทนนิสมือ 1 ของโลก
อย่างน้อยก็จะได้มีคนยอมฟังสิ่งที่ฉันพูด” คิง ย้อนความหลังกับ USA Today ด้วยความแน่วแน่ของ คิง ส่งผลโดยตรงต่อฝีมือในคอร์ทที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเมื่ออายุ 17 คิง ก็สามารถคว้าแชมป์แกรนด์สแลมแรกในชีวิตของเธอได้สำเร็จ เป็นแชมป์ศึกวิมเบิลดันประเภทหญิงคู่ที่เธอได้มันมาร่วมกับ คาเรน แฮนต์ซ (Karen Hantze) นักเทนนิสเพื่อนร่วมชาติในปี 1961 อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นตำนานของ บิลลี่ จีน คิง เท่านั้น กระบอกเสียงเพื่อผู้หญิง
หลังจากที่ปักหมุดหมายแชมป์แกรนด์สแลมแรกในชีวิตได้สำเร็จ คิง ก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เพราะหลังจากนั้น คิง ก็คว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้อีกมากมายจนไม่อาจนับนิ้วได้หมด โดยตลอดชีวิตการเป็นนักเทนนิสเธอคว้าแชมป์รายการระดับแกรนด์สแลมรวมกันได้มากถึง 39 ครั้ง โดยแบ่งเป็นประเภทเดี่ยว 12 ครั้ง ประเภทคู่ 16 ครั้ง และคู่ผสม 11 ครั้ง โดยเฉพาะการแข่งขันบนคอร์ทหญ้าแห่งวิมเบิลดันที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็น “ของหวาน” สำหรับ คิง
เพราะเธอคว้าแชมป์ในทุกประเภทการแข่งขันได้มากถึง 20 รายการ คิง ก้าวขึ้นเป็นนักเทนนิสหญิงมือวางอันดับ 1 ของโลก นับตั้งแต่ปี 1966 เป็นต้นมา และก็ครองตำแหน่งนั้นได้อย่างยาวนานหลายปี ถึงแม้ว่าในตอนแรกเธอจะโดนคัดค้านจากที่บ้านในการตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อมาทุ่มเทให้กับเทนนิส แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกคนก็คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการตัดสินใจของเธอคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง
คลิ๊กเลย >>> UFABETWINS
อ่านข่าวเพิ่ม >>> บ้านผลบอล